การวัดความดันโลหิตให้ได้ค่าความดันโลหิตที่ถูกต้องตรงตามความเป็นจริงต้องเข้าใจถึงหลักการวัดความดันโลหิต ความสำคัญของค่าความดันโลหิตจะเป็นสัญญานบอกให้ทราบว่าร่างกายยังปกติดีอยู่หรือว่าเริ่มมีความผิดปกติเกิดขึ้นแล้ว หากมีการผิดพลาดในการวัดความดันโลหิตจะด้วยเหตุใดก็ตามที่ทำให้ค่าความดันโลหิตผิดไปจากความเป็นจริงจะทำให้เกิดผลเสียหลายอย่างตัวอย่างเช่น การคัดกรองผู้ป่วยผิดพลาดโดยวัดความดันโลหิตได้ค่าที่ต่ำกว่าความเป็นจริงจะทำให้คนที่ควรจะเป็นผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงซึ่งต้องระมัดระวังเรื่องสุขภาพกลายเป็นคนปกติทำให้ขาดการดูแลสุขภาพจนกว่าจะรู้ตัวก็เกิดอาการแทรกซ้อนจากโรคความดันโลหิตสูงที่ทำให้อวัยวะสำคัญต่างๆ เกิดความเสียหายไปแล้ว
การจะวัดความดันโลหิตให้ได้ค่าที่ถูกต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างเริ่มตั้งแต่คนที่ทำการวัดความดันโลหิตต้องมีความรู้ทั้งในเรื่องการเลือกใช้และวิธีใช้เครื่องวัดความดันโลหิตที่มีหลายชนิดซึ่งแต่ละชนิดก็มีหลักการใช้เครื่องวัดความดันโลหิตที่ต่างกัน เช่น เครื่องวัดความดันโลหิตแบบปรอท (Mercury sphygmomanometer) เครื่องวัดความดันโลหิตชนิดขดลวด (Aneroid Sphygmomanometer) และเครื่องวัดความดันโลหิตแบบดิจิตอล (Automatic Digital Sphygmomanometer) คนที่ทำการวัดความดันโลหิตต้องรู้จักวิธีใช้เครื่องวัดความดันโลหิตเป็นอย่างดีและรู้ถึงข้อดี-ข้อเสีย สิ่งที่ควรระมัดระวังเกี่ยวกับวิธีใช้เครื่องวัดความดันโลหิตชนิดนั้นๆ
ผู้เข้ารับการวัดความดันโลหิตก็ต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อมโดยก่อนเข้ารับการวัดความดันโลหิตควรงดการดื่มกาแฟ สูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ฯลฯ เพราะปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลกระทบทำให้ค่าความดันโลหิตที่ได้ผิดไปจากความเป็นจริง แม้แต่การวัดความดันโลหิตในขณะที่มีอาการเครียด เจ็บปวด ปวดปัสสาวะ อุณหภูมิห้องร้อนหรือหนาวเกินไป เพิ่งกินอาหารอิ่มใหม่ๆ ก็อาจทำให้ค่าความดันโลหิตที่ได้คลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง
ความพร้อมในเรื่องสถานที่วัดความดันโลหิต สภาพแวดล้อมต้องมีความสงบและเป็นส่วนตัวพอสมควร ที่สำคัญคือต้องไม่ทำให้เกิดปัจจัยใดๆ ที่มีผลต่อค่าความดันโลหิตที่ได้ เช่น ความสูงของโต๊ะและเก้าอี้สำหรับผู้ที่เข้ารับการวัดความดันโลหิตต้องมีระดับความสูงที่พอดีกล่าวคือเมื่อผู้เข้ารับการวัดความดันโลหิตนั่งบนเก้าอี้แล้ววางแขนบนโต๊ะแล้วระดับความสูงของแขนต้องอยู่ในระดับเดียวกับหัวใจจึงจะทำให้ได้ค่าความดันโลหิตที่ถูกต้อง
วิธีอ่านค่าเครื่องวัดความดันโลหิต เมื่อทำการวัดความดันโลหิตจนได้ค่าความดันโลหิตมาแล้วก็มาถึงการอ่านค่าความดันโลหิต สิ่งที่ควรทราบคือค่าความดันโลหิตปกติคือเท่าไหร่ซึ่งสามารถดูได้จากตารางค่าความดันโลหิตปกติที่แสดงให้เห็นว่าค่าความดันโลหิตปกติในแต่ละวัยเป็นเท่าใด แล้วนำค่าความดันโลหิตที่วัดได้ไปเปรียบเทียบกับระดับความดันโลหิตปกติก็จะทราบว่าความดันโลหิตที่วัดได้อยู่ในระดับปกติหรือสูง-ต่ำกว่าระดับความดันโลหิตปกติเพื่อจะได้รับคำแนะนำในการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมกับค่าความดันโลหิตที่วัดได้
อ่านค่าความดัน 3 ตัว วิธีอ่านค่าความดันโลหิต เมื่อวัดความดันโลหิตเสร็จแล้วจะได้ค่าความดันโลหิตเป็นตัวเลขมา 3 ตัว การอ่านค่าวัดความดันหรือการแปลความหมายจากตัวเลขที่ได้มีดังนี้ 1. SYS คือค่าความดันในขณะที่หัวใจกำลังบีบตัวซึ่งค่าความดัน(SYS) ปกติจะอยู่ในช่วง 120-129 มิลลิเมตรปรอท 2. DIA คือค่าความดันในขณะที่หัวใจกำลังคลายตัวซึ่งค่าความดัน(DIA) ปกติจะอยุ่ในช่วง 80-84 มิลลิเมตรปรอท 3. PUL คือค่าที่แสดงถึงอัตราการเต้นของหัวใจมีหน่วยเป็น ครั้ง/นาที ซึ่งค่าปกติจะอยู่ในช่วง 60-100 ครั้ง/นาที
การวัดความดันโลหิตซ้ำ โดยทั่วไปมักทำการวัดความดันซ้ำเมื่อการวัดความดันครั้งแรกได้ค่าที่สูงหรือต่ำกว่าเกณฑ์ปกติโดยการวัดความดันซ้ำควรเว้นระยะห่าง 1 นาทีจากการวัดครั้งแรก การวัดความดันซ้ำจะทำให้ได้ค่าความดันโลหิตที่ใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุดแต่หากการวัดความดันครั้งที่ 2 ได้ค่าความดันโลหิตที่แตกต่างจากครั้งแรกมากกว่า 5 มิลลิเมตรปรอท ให้ทำการวัดความดันอีกครั้ง(ครั้งที่ 3) แล้วใช้ค่าเฉลี่ยจากทั้ง 3 ครั้งเป็นค่าความดันโลหิตที่ถูกต้อง
หลักการวัดความดันโลหิตเป็นการบอกให้ทราบถึงสิ่งที่ควรทำในการวัดความดันโลหิตแต่ในทางปฏิบัติแล้วสิ่งสำคัญของการได้มาซึ่งค่าความดันโลหิตที่ถูกต้องคือการที่เราสามารถควบคุมปัจจัยที่มีผลต่อค่าความดันโลหิตให้ได้มากที่สุด ความคลาดเคลื่อนของค่าความดันโลหิตอาจเกิดขึ้นได้จากทั้งผู้ทำการวัดความดันโลหิต ผู้เข้ารับการวัดความดันโลหิต ชนิดอุปกรณ์ที่ใช้วัดความดันโลหิต สภาพแวดล้อมขณะทำการวัดความดัน ฯลฯ ซึ่งถ้าเราสามารถควบคุมปัจจัยเหล่านี้ได้ก็จะทำให้เราได้ค่าความดันโลหิตที่ถูกต้องไปใช้ประโยชน์ต่อไปได้